เทคนิคในการแกะดอกสำหรับใช้ในการเล่นการพนันไพ่รัมมี่ และการพนันไพ่ตีแตกนั้น จะเป็นการแกะดอกทำตำหนิแบบรู้ไพ่ทุกตัวว่าไพ่ใบนั้น คืออะไร และสีดอกของไพ่คือตัวอะไร สำหรับเทคนิคในการแกะดอกนั้น ส่วนใหญ่จะมีการกำหนดแต้มไพ่ ดังนี้ คือ
1. แกะดอกทำตำหนิซ้ายไปขวา
2. แกะดอกทำตำหนิจากบนลงล่าง
จากรูปแสดงให้เห็นลักษณะลวดลายทางด้านหลังของไพ่ที่มีความนิยมนำมาใช้เล่นกันมากที่สุดตามบ่อนต่าง ๆ ในปัจจุบัน
1. ลายที่ 1 ไพ่ตอง 1
2. ลายที่ 2 ไพ่กระดาษ
3. ลายที่ 3 ไพ่ตอง
ก่อนอื่นเรามาดูลักษณะทางด้านหลังของไพ่กันก่อนว่า ไพ่แต่ละยี่ห้อนั้นจะมีลวดลายที่แตกต่างกันไปดังเช่น ลวดลายต่อไปนี้ คือ ไพ่ตอง 1 – ตอง 2 – ตอง 5
หมายเหตุ ลวดลายของไพ่ทั้ง 3 ชุดนี้ จะมีความนิยมนำมาเล่นกันมากที่สุดตามบ่อนต่าง ๆ ไม่ว่าบ่อนเล็กหรือบ่อนใหญ่
การแกะดอกไพ่แบบที่ 1 (ดอกที่อยู่ขอบนอก) ตอง 5 จะทำการแกะดอกทำตำหนิแบบเริ่มจากซ้ายไปขวาไล่ไปทีละดอก คือดอกที่ 1 คือ A ดอกที่ 2 คือ 2 ดอกที่ 3 คือ 3 ดอกที่ 4 คือ 4 ดอกที่ 5 คือ 5 ดอกที่ 6 คือ 6 แกะดอกทำตำหนิไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะครบทุกตัว การแกะดอกจะเห็นทั้งด้านบนและด้านล่างโดยแกะดอกทำตำหนิแบบทแยงมุม ดังเช่นในรูป
วางไพ่ 1 ใบโชว์หลังไพ่ไล่แต้มศรชี้ดอกไล่แต้ม
ไพ่วาง 1 ใบโชว์หลังไพ่ศรชี้ไล่ดอกสี
สำหรับการแกะดอกทำตำหนิ เพื่อบอกสีดอกของไพ่จะทำการแกะดอกทำตำหนิโดยเริ่มจากดอกที่ 2 ทางซ้ายมือลงมา คือ สีโพธิ์ดำ ดอกที่ 3 คือ สีโพธิ์แดง ดอกที่ 4 สีข้าวหลามตัด ส่วนไพ่สีดอกจิกไม่ต้องทำก็ได้ให้ผู้ที่ทำตำหนิจำเอาไว้ด้วยตัวเอง
การแกะดอก (ตอง 5 )
แกะดอกเสร็จแล้ว
วิธีการแกะดอกจะใช้มีดคัตเตอร์ที่มีปลายแหลมคมแกะทำตำหนิภายในดอกของไพ่สะกิดให้พอเป็นรอยขาว ๆ ขึ้นมาก็พอ ดังเช่นในรูป
วางไพ่ 1 ใบ โชว์หลังไพ่ไล่แต้มศรชี้บอกแต้ม
การแกะดอกแบบที่ 2 (ดอกที่อยู่ขอบใน) จะทำการแกะดอกทำตำหนิ โดยเริ่มจากซ้ายไปขวาเช่นเดียวกับการทำตำหนิแบบที่ 1 แต่จะอยู่ในขอบด้านใน การกำหนดแต้มจะเริ่มจากไพ่ดอกแรกทางซ้ายมือ คือ A ดอกที่ 2 คือ 2 ดอกที่ 3 คือ 3 ไล่ไปเรื่อยจนกว่าจะครบทุกตัว สำหรับการแกะดอกทำตำหนิ เพื่อบอกสีดอกของไพ่จะทำการแกะดอกทำตำหนิโดยเริ่มจากดอกที่ 1 ทางซ้ายมือลงมา คือ สีโพธิ์ดำ ดอกที่ 2 คือสีโพธิ์แดง ดอกที่ 3 คือ สีข้าวหลามตัด ส่วนไพ่สีดอกจิกไม่ต้องทำก็ได้ให้ผู้ที่ทำตำหนิเอาไว้ด้วยตัวเอง
1. แกะดอก (ตอง 5)
2. แกะดอกเสร็จแล้ว
วิธีการแกะดอกจะใช้มีดคัตเตอร์ที่มีปลายแหลมคมแกะทำตำหนิภายในดอกของไพ่สะกิดให้พอเป็นรอยขาว ๆ ขึ้นมาก็พอ ดังเช่นในรูป
หลังไพ่ศรชี้ดอกและมุมไพ่เพื่อบอกแต้ม
การทำตำหนิแกะดอกไพ่แบบที่ 3 ดอกที่อยู่ขอบนอก โดยจะเริ่มจากดอกแรกทางซ้ายมือเป็นการแกะดอกทำตำหนิบอกแต้ม ดังนี้ คือ หนึ่งดอกจะมี 4 มุม มุมที่ 1 คือ A มุมที่ 2 คือ 2 มุมที่ 3 คือ 2 มุมที่ 4 คือ 4 ส่วนไพ่ดอกที่ 2 จะเริ่มทำตำหนิจากมุมล่างก่อนคือ 5 มุมที่ 2 คือ 6 มุมที่ 3 คือ 7 มุมที่ 2 คือ 10 มุมที่ 3 คือ J มุมที่ 4 คือ Q ส่วนไพ่ K ไม่ต้องทำ ผู้ที่ทำการแกะดอกทำตำหนิจะรู้ด้วยตัวเอง
หลังไพ่ศรชี้บอกสี
สำหรับการแกะดอกเพื่อบอกสีดอกของไพ่จะทำการแกะดอกทำตำหนิจากไพ่ดอกแรกนับจากทางขวามือสุด ดังนี้ คือ 1 ดอกจะมี 4 มุม มุมแรกล่างสุดจะเป็นสีโพธิ์ดำ มุมที่ 2 คือ สีโพธิ์แดง มุมที่ 3 คือ สีข้าวหลามตัด มุมที่ 4 คือ สีดอกจิก
1. การแกะดอก (ตอง 5)
2. แกะดอกเสร็จแล้ว
วิธีการแกะดอกจะใช้มีดคัตเตอร์ที่มีปลายแหลมคมแกะทำตำหนิภายในดอกของไพ่สะกิดให้พอเป็นรอยขาวๆ ขึ้นมาก็พอ ดังเช่นในรูป
หมายเหตุ สำหรับการแกะดอกไพ่แบบรู้แต้มและรู้สีดอกของไพ่ จะมีจุดประสงค์ในการนำมาเล่นไพ่รัมมี่และไพ่ตีแตก เพราะสามารถรู้ไพ่ทุกตัวว่าไพ่ใบนั้น คือตัวอะไร ควรจั่วหรือไม่ควรจั่ว ใครคอยอะไรจะรู้หมด สามารถพลิกแพลงการเล่นได้หลายรูปแบบด้วยกัน
การแกะดอกแบบที่ 4 (ดอกที่อยู่ขอบนอก) (ตอง 2) จะทำการแกะดอกทำตำหนิแบบเริ่มจากซ้ายไปขวาไล่ไปทีละดอก คือ ดอกที่ 1 คือ A ดอกที่ 2 คือ 2 ดอกที่ 3 คือ 3 ดอกที่ 4 คือ 4 ดอกที่ 5 คือ 5 ดอกที่ 6 คือ 6 แกะดอกทำตำหนิไปเรื่อยจนกว่าจะครบทุกตัว การแกะดอกจะแกะทั้งด้านบนและด้านล่างโดยจะแกะดอกทำตำหนิแบบทแยงมุม (ดังเช่นในรูป)
1. วางไพ่ 1 ใบ โชว์หลังไพ่ไล่แต้ม ศรชี้ดอกไล่แต้ม
2. ไพ่วาง 1 ใบ โชว์หลังไพ่ศรชี้ดอกบอกสี
สำหรับการแกะดอกทำตำหนิ เพื่อบอกสีดอกของไพ่จะเริ่มจากดอกที่ 1 ซ้ายมือลงมา คือสีโพธิ์ดำ ดอกที่ 2 คือ โพธิ์แดง ดอกที่ 3 คือ สีข้าวหลามตัด ส่วนไพ่สีดอกจิกไม่ต้องทำตำหนิก็ได้ ให้ผู้ทำตำหนิจำเอาไว้ด้วยตัวเอง
1. แกะดอก (ตอง 2 )
2. แกะดอกเสร็จแล้ว
วิธีการแกะดอกจะใช้มีดคัตเตอร์ที่มีปลายแหลมคมแกะทำตำหนิ ภายในดอกของไพ่สะกิดให้พอเป็นรอยขาว ๆ ขึ้นมาก็พอ ดังเช่นในรูป
การแกะดอกแบบที่ 5 (ดอกที่อยู่ขอบใน) จะทำการแกะดอกทำตำหนิโดยเริ่มจากซ้ายไปขวาเช่นเดียวกันกับการทำตำหนิแบบที่ 1 แต่จะอยู่ภายในขอบด้านใน การกำหนดแต้มจะเริ่มจากไพ่ดอกแรกทางซ้ายมือ คือ A ดอกที่ 2 คือ 2 ดอกที่ 3 คือ 3 ไล่ไปเรื่อยจนครบทุกตัว
วางไพ่ 1 ใบ โชว์หลังไพ่ไล่แต้ม ศรชี้บอกแต้ม
สำหรับการแกะดอกทำตำหนิ เพื่อบอกสีดอกของไพ่จะทำการแกะดอกทำตำหนิ โดยเริ่มจากดอกที่ 1 ทางซ้ายมือลงมา คือ สีโพธิ์ดำ ดอกที่ 2 คือ สีโพธิ์แดง ดอกที่ 3 คือ สีข้าวหลามตัด ส่วนไพ่สีดอกจิกไม่ต้องทำตำหนิก็ได้ ให้ผู้ทำตำหนิจำเอาไว้ด้วยตัวเอง
วางไพ่ 1 ใบ โชว์หลังไพ่ไล่แต้ม ศรชี้ดอกบอกสี
วิธีการแกะดอกจะใช้มีดคัตเตอร์ที่มีปลายแหลมคมแกะทำตำหนิภายในดอกของไพ่สะกิดให้พอเป็นรอยขาว ๆ ขึ้นมาก็พอ ดังเช่นในรูป
1. การแกะดอก (ตอง 2)
2. แกะดอกเสร็จแล้ว
การทำตำหนิแกะดอกไพ่แบบที่ 6 ดอกที่อยู่ขอบนอกโดยเริ่มจากดอกแรกทางซ้ายมือ เป็นการแกะดอกทำตำหนิแบบแต้ม ดังนี้ คือ 1 ดอกจะมี 4 มุม มุมที่ 1 คือ A มุมที่ 2 คือ 2 มุมที่ 3 คือ 3 มุมที่ 4 คือ 4 ส่วนไพ่ดอกที่ 2 จะเริ่มทำตำหนิจากมุมล่างก่อน คือ 5 มุม ที่ 2 คือ 6 มุมที่ 3 คือ 7 มุมที่ 4 คือ 8 ส่วนไพ่ดอกที่ 3 มุมล่างสุด คือ 9 มุมที่ 2 คือ 10 มุมที่ 3 คือ J มุมที่ 4 คือ Q ส่วนไพ่ K ไม่ต้องทำ ผู้ที่ทำการแกะดอกทำตำหนิจะรู้ด้วยตัวเอง
หลังไพ่ ศรชี้และมุมไพ่เพื่อบอกแต้ม
สำหรับการแกะดอก เพื่อบอกสีดอกของไพ่ จะทำการแกะดอกทำตำหนิจากไพ่ดอกรำนับจากทางขวามือสุด ดังนี้ คือ 1 ดอกจะมี 4 มุม มุมแรกล่างสุด คือ สีโพธิ์ดำ มุมที่ 2 คือ สีโพธิ์แดง มุมที่ 3 คือ สีข้าวหลามตัด มุมที่ 4 คือ สีดอกจิก
หลังไพ่ ศรชี้ดอกบอกสี
การแกะดอก (ตอง 2)
แกะเสร็จแล้ว
วิธีการแกะดอกจะใช้มีดคัตเตอร์ที่มีปลายแหลมคมแกะทำตำหนิภายในดอกของไพ่สะกิดให้พอเป็นรอยขาว ๆ ขึ้นมาก็พอ ดังเช่นในรูป
หมายเหตุ สำหรับการแกะดอกไพ่แบบรู้แต้ม ไม่รู้แต้ม และรู้สีดอกของไพ่ จะมีจุดประสงค์ในการนำไปเล่นไพ่รัมมี่และไพ่ตีแตกเพราะเราสามารถรู้ไพ่ทุกตัวว่าไพ่ใบนั้น คือตัวอะไร ควรจั่วหรือไม่ควรจั่ว ใครคอยอะไรจะรู้หมด สามารถพลิกแพลงการเล่นได้หลายรูปแบบ