ศาสตร์แห่งกลโกง

เปิดใจคุยกัน

หลากหลายเรื่องราวที่ผ่านเข้ามาในชีวิตของคนทุกคน ไม่ว่าคุณหรือใครก็ตาม ผมคิดว่าทุกคนต้องเคยผ่านทั้งเรื่องร้ายและเรื่องดีมาบ้างไม่มากก็น้อย เรื่องไหนที่เป็นเรื่องที่ทำให้เรามีความสุข ความประทับใจ เราก็ควรจดบันทึกไอดารี่เก็บเอาไว้เป็นความทรงจำในชีวิต ของผมตั้งแต่จำความได้ ก็เหมือนกับหลายคนเช่นเดียวกัน คือ ผ่านทั้งความสุขและความทุกข์มากพอสมควร ต่างกันที่ชีวิตของผมได้เข้ามาอยู่ในวงการพนันและวงการมาเฟียเท่านั้นเอง ฟังดูเหมือนเท่นะ แต่จริง แล้วไม่ใช่เลย การที่ผมก้าวเข้าไปเพราะความคึกคะนองและกว่าจะก้าวออกมาได้เพราะสำนึกผิด ก็ทำให้ผมแทบเกือบเอาชีวิตไม่รอด แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้ผมเกิดความรู้สึกท้อแท้แต่อย่างใด

วงการพนันมีอะไรหลาย ๆ อย่างที่หลาย ๆ คนยังไม่รู้ถึงความน่ากลัวของมัน ผมเคยพยายามหลายต่อหลายครั้งที่จะหยิบยกเอามาเสนอ ให้คนในสังคมได้ทราบ ได้รู้ ได้เห็น แต่ก็ถูกต่อต้านจากบุคคลหลายกลุ่มว่า หนังสือหรือผลงานของผมเป็นเหมือนดาบสองคม กล่าวหาว่าเป็นหนังสือที่ไม่สร้างสรรค์ ผมเคยคุยกับคนกลุ่มนี้หลายคนแล้วว่า หนังสือไม่สร้างสรรค์ตรงไหน เขาบอกว่าเป็นหนังสือเกี่ยวกับการพนัน ผมก็ตอบว่าใช่ แต่การที่ผมเอาความลับเทคนิคและเล่ห์กลโกงมาเขียนนำเสนอเนี่ยมันผิดตรงไหน คนพวกนั้นบอกว่ามันผิดศีลธรรม ผมก็เลยถามเขาต่อไปว่าผิดศีลธรรมตรงไหน ก็หนังสือที่ผมเขียนไม่ได้มีจุดประสงค์ไปชักชวนให้ใครไปเล่นการพนัน แต่ขณะเดียวกันผมกลับชี้ให้เห็นโทษและเล่ห์เหลี่ยมกลโกงของการพนันว่ามันมีอะไรบ้าง เป็นเรื่องที่ดีไม่ใช่เหรอ ผมกล้าพูดได้เลยว่าคนทั่วโลกส่วนมากมีความผูกพันกับการพนันเสี่ยงโชคในรูปแบบต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น ตีไก่ – ไฮโล – ไพ่ – หวย – มวย – ม้า – ปลากัด หรือแม้กระทั่งหมากัดกัน ก็ยังเอามาเป็นการพนัน เหมือนอย่างบางประเทศ แต่คุณรู้มั้ยว่าการพนันแต่ละประเภทนั้นเขามีเทคนิคและวิธีโกงกันอย่างไร ผมกล้าพูดได้เลยว่า 90 % ของคนทั่วโลกไม่มีใครรู้ 5% รู้บ้างไม่รู้บ้าง ส่วนอีก 5% เป็นพวกเซียนเดินสายจริง เพราะฉะนั้นการที่ผมนำเรื่องราวเหล่านี้มาเปิดเผย ผมกล้าพูดได้เลยว่า 90% ของคนที่ไม่มีความรู้ มีความต้องการที่จะอยากรู้ถึงลักษณะและเล่ห์เหลี่ยมกลโกงต่าง ๆ ของการพนันแต่ละประเภท เพื่อจะได้เกิดความระมัดระวัง ไม่ต้องถูกหลอกถูกโกงจากพวกเซียนพนันทั่วๆ ไป ผมคงไม่มีอำนาจไปยุยงส่งเสริมให้ใครหันไปเล่นการพนัน ไอ้ครั้นจะไปบอกให้เขาเลิกเล่นการพนัน เดี๋ยวเขาก็จะด่าหาว่าไปเสือกเรื่องส่วนตัวของเขาอีก เพราะฉะนั้นสิ่งที่ทำได้ดีที่สุดก็คือ ชี้แนะและอธิบายให้เขาเห็นเสียเลยว่า การพนันมันมีโทษอย่างนี้นะ และให้พวกเขาเหล่านั้นตัดสินใจกันเอาเอง แบบนี้ดีกว่าใช่ไหมครับ และอย่างนี้ คุณลองคิดดูสิว่า หนังสือของผมมันสร้างสรรค์หรือทำลายกันแน่

วันเสาร์ที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2553

เทคนิคการตีลังกาแบบวนปักผ้า

เทคนิคการตีลังกาสลับไพ่แบบวนปักผ้า เป็นเทคนิคของการตีลังกาไพ่อีกวิธีหนึ่ง ซึ่งยังมีความนิยมนำมาเล่นกันอยู่มากพอสมควร พอ ๆ กับเทคนิคการตีลังกาแบบอื่น ๆ ที่สามารถใช้มือที่ถนัดเพียงข้างเดียวทำการตีลังกาสลับไพ่ได้แบบสบาย ๆ

เทคนิคในการตีลังกาแบบวนปักผ้า คือ ให้ใช้มือขวาหรือมือที่ถนัดจับกองไพ่ที่อยู่ข้างล่างขึ้นมาก่อน จากนั้นจึงทำการวนไพ่อ้อมออกมาทางข้างหลังของไพ่อีกกองหนึ่งที่วางอยู่ข้างล่าง จากนั้นจึงวนผ่านไปทางข้างหน้าอีกทีหนึ่ง จากนั้นจึงให้นำขอบไพ่กองที่ถืออยู่ปักลงไปบนผืนผ้าข้างล่าง จากนั้นจึงให้นำขอบไพ่กองที่ถืออยู่ปักลงไปบนผืนผ้าข้างล่าง จากนั้นจึงให้นำขอบไพ่กองที่ถืออยู่ปักลงไปบนผืนผ้าข้างล่าง จากนั้นให้ใช้นิ้วกลาง นิ้วนางและนิ้วก้อน ของมือข้างขวาหรือมือที่ถือไพ่ทำการเกี่ยวประคองไพ่อีกกองขึ้นมา เสร็จแล้วจึงนำขึ้นมาจัดเก็บเข้าที่ให้เรียบร้อย เพื่อที่จะได้ทำการแจกไพ่ต่อไปก็ถือว่าเป็นอันเสร็จสิ้นขั้นตอนของเทคนิคในการตีลังกาแบบวนปักผ้า

จะเห็นว่าไพ่ที่ลูกค้าตัดไปแล้วนั้น จะกลับมาอยู่ตำแหน่งข้างบนเหมือนเดิม และเพื่อที่ผู้อ่านจะได้เข้าใจง่ายขึ้น เรามาดูรูปประกอบ คำอธิบายไปพร้อม ๆ กันดีกว่านะครับ

หลังจากที่เจ้ามือ (ตัวเราเอง) ทำการสับไพ่เสร็จแล้ว ก็นำไพ่วางลงไปให้ลูกค้าทำการตัดไพ่ โดยสมมติว่าไพ่ A ข้าวหลามตัดเป็นไพ่ที่อยู่กองข้างบน และลูกค้าก็ตัดไพ่ออกมาทางขวามือเราเป็น 2 กอง

ใช้มือขวาหรือมือที่ถนัดทำการหยิบไพ่กองที่อยู่ข้างล่างขึ้นมาก่อนในลักษณะของการคว่ำมือ และใช้นิ้วหัวแม่มือประคอบไพ่ด้านล่างเอาไว้

จากนั้นทำการวนไพ่ โดยการวนไพ่อ้อมมาทางด้านหลังของไพ่กองที่วางอยู่ ต่อจากนั้นให้ทำการวนไพ่ ให้เลยกลับมาทางด้านหน้าอีกครั้งหนึ่ง สาเหตุที่ต้องมีการหยิบไพ่ขึ้นออกมาวนไปรอบๆ เพื่อเป็นการหลอกตาผู้ร่วมเล่นคนอื่น ๆ ให้เกิดความงุนงงนั่นเอง



ภาพประกอบที่ 73, 74, 75)

หลังจากที่วนไพ่หลอกตาผู้ร่วมเล่นคนอื่น จนไพ่มาอยู่ในตำแหน่งช่องหน้าทางด้านขวามือแล้วก็ให้ใช้วิธีการตีลังกาสลับไพ่ โดยแตะขอบไพ่ที่ถืออยู่ในมือลงไปบนผืนผ้าที่ปูเอาไว้สำหรับใช้ในการเล่นไพ่นั่นแหละ

จากนั้นให้ใช้นิ้วกลาง นิ้วนาง และนิ้วก้อยของมือที่ถือไพ่อยู่นั่นแหละ เกี่ยวไพ่อีกกองที่อยู่ข้างล่งแล้ว ประคอบไพ่กองนั้นขึ้นมา

จะเห็นได้ว่าไพ่ที่ลุกค้าทำการตัดไว้ ตั้งแต่แรกนั้น จะกลับมาอยู่ตำแหน่งเดิม ต่อนากนี้ไปก็เป็นเรื่องของการแจกไพ่ของเจ้ามือแล้วล่ะ การฝึกจะต้องค่อย ๆ ดูแล้วทำตามทีละขั้นตอน และทุกขั้นตอนนั้น จะต้องทำต่อเนื่องกันด้วยความรวดเร็ว

สำหรับเทคนิคในการตีลังกานั้นจริง ๆ แล้วยังมีอีกมากมายหลายรูปแบบ ซึ่งจะนำเสนอในเล่มต่อ ๆ ไป โดยมีลักษณะในการเล่นและจุดประสงค์ โดยรวมก็คือ ต้องการสลับไพ่ที่ลูกค้าหรือเพื่อนที่ร่วมเล่นตัดนั้น ให้กลับมาอยู่ที่เก่าเหมือนเดิม เพราะว่าเซียนที่เล่นเป็นเจ้ามือได้ทำการเก็บและสับไพ่สร้างวงจรเอาไว้แล้วนั่นเอง แต่จริง ๆ แล้วปัจจุบันนี้ได้มีวิวัฒนาการใหม่ ๆ เกิดขึ้นมาอีก โดยมีวิธีการที่ไม่ต้องใช้เทคนิคในการตีลังกาเข้ามาเกี่ยวข้อง และนั่นจะเป็นเทคนิคแบบอะไรนั้น ก็ต้องติดตามผลงานของผมต่อไปนะครับ ใจเย็น ๆ ไม่ต้องรีบร้อนผมยังไม่หายไปไหนอยู่แล้วล่ะ

เทคนิคการตีลังกาแบบหงายไพ่ 2 มือ

เทคนิคการตีลังกาแบบหงายไพ่ 2 มือ ก็มีวิธีการเล่นหรือทำได้โดยง่าย หรือคล้าย ๆ กับการตีลังกาแบบหงายไพ่สลับมือ แต่เทคนิคการตีลังกาแบบหงายไพ่แบบ 2 มือนี้ ไม่จำเป็นที่จะต้องทำแบบไขว้สลับมือ เพียงแต่ต้องจำให้ได้ว่าไพ่กองไหนอยู่ข้างบน และกองไหนอยู่ข้างล่าง เพื่อที่จะได้ไม่ผิดพลาด เวลาที่ทำการสลับไพ่เข้าหากัน เทคนิคในการเล่นก็คือ หลังจากที่ลูกค้าตัดไพ่ออกเป็น 2 กอง คือ กองข้างล่างและกองข้างบน จากนั้นก็ให้ใช้มือ 2 ข้างจับไพ่ที่ลูกค้า และในจังหวะนี้เอง เจ้ามือก็จะทำการสลับไพ่กลับมาอยู่ที่เดิมทันที เห็นไหมครับว่าเทคนิคง่าย ๆ แค่นี้ก็สามารถสร้างความงุนงงให้กับผู้ร่วมเล่นคนอื่นได้เช่นกัน

หลังจากที่เจ้ามือ (ตัวเราเอง) ทำการสับไพ่เสร็จแล้ว ก็นำไพ่วางลงไปให้ลูกค้าทำการตัดไพ่ โดยสมมติว่าเป็นไพ่ A ดอกจิกเป็นไพ่ที่อยู่กองข้างบนและลูกค้าก็ตัดไพ่ออกมาทางขวามือเราเป็น 2 กอง

จากนั้น ให้ใช้มือทั้ง 2 ข้างหยิบไพ่ขึ้นมาพร้อม ๆ กัน โดยมือขวาหยิบไพ่ที่อยู่กองข้างขวา และมือซ้ายหยิบไพ่ที่อยู่กองข้างซ้ายยกขึ้นมาพร้อม ๆ กัน และขณะที่ยกขึ้นมานั้น ก็ให้หงายไพ่ที่อยู่ในมือทั้ง 2 ข้างขึ้นมาให้ลูกค้าดูเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจว่าเราไม่ได้โกงไพ่โดยการปลิ้นไพ่ใบล่าง เพราะส่วนมากลูกค้าจะเข้าใจว่าเจ้ามือชอบโกงโดยการปลิ้นไพ่ใบล่าง

จากนั้น ให้นำไพ่ทั้ง 2 กองเข้ามาประกบกัน ในขณะที่กำลังหงายไพ่อยู่นั่นแหละ โดยต้องจำให้ดีว่าไพ่ที่อยู่ในมือนั้น มือข้างไหนถือไพ่กองข้างล่าง มือข้างไหนถือไพ่กองข้างบน เพื่อที่เวลานำไพ่เข้าไปประกบกันได้ไม่ผิดพลาด เสร็จแล้วจึงนำไพ่วางคว่ำลงไป ก็จะเห็นว่าไพ่ A ดอกจิกกลับมาอยู่ในตำแหน่งข้างบนเหมือนเดิม

วันศุกร์ที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2553

เทคนิคการตีลังกาแบบไขว้มือ

เทคนิคการตีลังกาแบบไขว้มือนั้นเป็นอีกเทคนิคหนึ่ง ที่สามารถสร้างความงุนงงให้แก่ผู้ร่วมเล่นคนอื่น ๆ ได้เช่นกัน การตีลังกาแบบไขว้มือมีเทคนิคและวิธีการเล่นที่ง่าย ๆ ดังนี้ หลังจากที่ทำการสับซอยไพ่เข้าวงจรตามใบสั่งแล้วให้นำไพ่ลงไปให้ลูกค้า ลูกค้าก็จะตัดไพ่ออกเป็น 2 กอง เราต้องดูว่าลูกค้าเขาทำการัดไพ่ไปทิศทางใด เช่น ถ้าลูกค้าตัดไพ่ออกมาทางขวามือเรา เราก็จะต้องใช้มือขวาเอื้อมลงไป หยิบไพ่ที่กองอยู่ข้างซ้ายก่อน พร้อมกันนั้นใช้มือซ้ายเอื้อมไปหยิบไพ่กองที่อยู่ทางขวามือเราขึ้นมา จากนั้นจึงทำการสลับไพ่เข้าประกบกันเข้าที่เดิม และถ้าลูกค้าตัดไพ่ออกไปทางซ้ายมือของเราก็ให้ใช้มือซ้ายเอื้อมไปหยิบไพ่ที่อยู่ทางกองขวามือขึ้นมาก่อน และพร้อมกันนั้นก็ให้เอื้อมมือขวาลงไปหยิบไพ่ที่อยู่ทางกองข้างซ้ายขึ้นมาแล้วทำการสลับไพ่เข้ามาประกบกันเข้าที่เดิมทันที

เห็นไหมครับว่าเทคนิคง่าย แค่นี้ก็สามารถสร้างความงุนงงให้กับลูกค้าได้เช่นกัน เรามาดูรูปประกอบคำอธิบายเทคนิคในการตีลังกาแบบไขว้มือไปพร้อมๆ กันเลยนะครับ

หลังจากที่เจ้ามือ (ตัวเราเอง) ทำการสับไพ่เสร็จแล้วก็นำไพ่วางลงไปให้ลูกค้าทำการตัดไพ่ โดยสมมติว่าไพ่ A โพธิ์ดำเป็นไพ่ที่อยู่กองข้างบน และลูกค้าตัดไพ่ออกมาทางขวามือเราเป็น 2 กอง

ในกรณีที่ลูกค้าตัดไพ่ออกมาทางขวามือ ให้เราใช้มือขวา เอื้อมลงไปหยิบไพ่กองที่อยู่ทางซ้ายมือก่อน

จากนั้นให้ใช้มือซ้ายหยิบไพ่อีกกองหนึ่ง ที่วางอยู่ทางขวามือในจังหวะนี้จะเห็นได้ว่ามือทั้งสองข้างไขว้กันอยู่

จากนั้นก็ขยับมือทั้ง 2 ข้างออกจากการไขว้กันก่อน เพื่อที่จะได้นำไพ่มาวางประกบกัน ให้ดูและจำเอาไว้ว่าไพ่ A โพธิ์ดำหรือไพ่ที่อยู่กองข้างบนนั้น อยู่ในมือข้างไหนจากนั้นก็ให้เอามาวางประกอบเอาไว้ข้างบนกลับเข้าทีเดิม


ในกรณีที่ลูกค้าตัดไพ่ออกมาทางซ้ายมือเรา เราก็จะต้องใช้มือซ้ายหยิบไพ่กองทางขวามือก่อน จากนั้นจึงใช้มือขวาหยิบไพ่กองที่อยู่ทางซ้ายมือ ในจังหวะนี้จะเห็นได้ว่ามือทั้ง 2 ข้างไขว้กันอยู่ดังในรูป จากนั้นให้แยกมือทั้ง 2 ข้างออกจากกันแล้วทำการสลับไพ่ ให้ไพ่กองที่อยู่ข้างบนคือ A โพธิ์ดำกลับมาอยู่ที่เดิม

วันพฤหัสบดีที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2553

เทคนิคการตีลังกาแบบพลิกหน้ามือ

เทคนิคการตีลังกาแบบพลิกหน้ามือ สามารถทำได้โดยนำไพ่ที่เจ้ามือทำการสับซอยไพ่เสร็จเรียบร้อยไปให้ลูกค้าทำการตัดไพ่ และหลังจากที่ลูกค้าตัดไพ่เสร็จเรียบร้อยแล้ว เจ้ามือจึงแก้ไขการัดไพ่ของลูกค้า โดยการตีลังกาสลับไพ่ให้กลับไปอยู่ที่เดิม

สำหรับเทคนิคการตีลังกาแบบพลิกหน้ามือนี้ ถือว่าเป็นพื้นฐานของการตีลังกาสลับไพ่ทั้งหมด และก็ง่ายต่อการทำการตีลังกาด้วย

วิธีทำการตีลังกา ก็คือ หลังจากที่ลูกค้าตัดไพ่เสร็จแล้ว จะเห็นได้ว่าจะมีไพ่อยู่ 2 กอง กองหนึ่ง คือ กองที่อยู่ข้างบน อีกกองหนึ่งเป็นกองที่อยู่ข้างล่าง เราจะต้องใช้ฝ่ามือข้างหนึ่งที่ถนัดทำการหยิบไพ่ทีเป็นกองข้างล่างขึ้นมาก่อน จากนั้นก็ให้เหวี่ยงมือข้างที่ถือไพ่นั่นแหละ ข้ามกองไพ่อีกกองหนึ่งที่อยู่ข้างล่างหรือไพ่ที่เป็นกองข้างบนนั่นเอง พอเหวี่ยงมือข้ามไปแล้ว ให้ใช้นิ้วหัวแม่มือกดไพ่ที่วางอยู่กองข้างล่างนั้นก่อนนิดหน่อย จากนั้นก็ใช้นิ้วชี้สะกิดไพ่กองนั้นขึ้นมา เพื่อรวมเป็นกองเดียวกันกับไพ่กองแรกที่ถือขึ้นมาก่อนนั่นเอง เสร็จแล้วจะเห็นได้ว่าไพ่ที่ลูกค้าตัดออกมาทีแรกนั้นจะกลับมาอยู่ที่เดิม

หลังจากที่เจ้ามือทำการสับซอยไพ่เสร็จแล้ว ก็ต้องนำไพ่ให้ลูกค้าตัด ลูกค้าก็จะทำการตัดไพ่ออกมาจะเห็นได้ว่าไพ่ที่ตัดออกมานั้นมี 2 กอง คือ กองที่อยู่ข้างบนและกองที่อยู่ข้างล่าง โดยสมมติให้ไพ่ 10 โพธิ์ดำเป็นไพ่ที่อยู่กองข้างบน

ใช้มือขวาจับไพ่กองที่อยู่ข้างล่างาขึ้นมาก่อนโดยใช้นิ้วหัวแม่มือ ช่วยกดไพ่ทางขอบไพ่ฝั่งซ้ายมือลงไปนิดหน่อย จากนั้นใช้ปลายนิ้วที่เหลือ คือ นิ้วชี้ นิ้วนาง และนิ้วก้อย ช่วยกันประคองและยกไพ่กองนั้นขึ้นมาเอาไว้ในมือข้างขวาก่อน

จากนั้นให้เหวี่ยงมือขวาที่ถือไพ่กองแรกอยู่นั้น ข้ามไพ่อีกกองหนึ่งไปเพียงเล็กน้อย แล้วจึงทำการหยิบไพ่อีกกองหนึ่งขึ้นมา โดยการใช้นิ้วหัวแม่มือข้างขวาที่ถือไพ่กองแรกเอาไว้ กดขอบไพ่ทางขวามือของไพ่กองที่อยู่ข้างล่างเอาไว้เบา ๆ แล้วใช้ปลายนิ้วที่เหลือของมือข้างขวาอีกนั่นแหละ ทำการยกประคองไพ่กองนั้นขึ้นมา เพียงเท่านี้ไพ่ที่เป็นกองข้างบนหรือกองไพ่ของ 10 โพธิ์ดำก็จะกลับมาอยู่ในตำแหน่งเดิม

วันพุธที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2553

ไพ่งานแกะดอก แบบที่ 7 (แยกแต้ม)

การทำไพ่งานแกะดอกแบบแยกแต้มนี้ มีจุดประสงค์เพื่อต้องการคัดแยกหรือเลือกไพ่ที่มีแต้มมาก คือตั้งแต่ 8-9-J-Q-K ให้มาตกอยู่กับเจ้ามือเป็นใบแรกก่อน เพราะเป็นไพ่ที่สามารถนำมาผสมแต้มกันง่ายกว่าไพ่ตัวอื่น ๆ การเล่นส่วนมากจะนำไพ่งานแบบนี้ลงไปเล่นการพนันประเภทป๊อก 8-9 โดยผู้เล่นจะนำเอาไพ่งานนี้ลงไปเล่นเป็นเจ้ามือ เพราะจะช่วยให้การคัดเลือกไพ่ง่ายขึ้น วิธีการเลนก็ใช้วิธีการแจกไพ่แบบธรรมดานี่แหละ แจกไพ่ให้ลูกค้าวนไปเรื่อย ๆ ตามจำนวนคนที่เล่นไพ่ แจกมาถึงเจ้ามือซึ่งเป็นคนสุดท้ายก็จะดูตำหนิที่ทำการแกะดอกเอาไว้ พอรู้แล้วว่าไพ่ที่จะต้องแจกมาตกในตำแหน่งของเจ้ามือ คือไพ่ที่มีแต้มมาก ก็จะทำการแจกไพ่มาลงในตำแหน่งเจ้ามือก่อน แต่ถ้าเป็นไพ่ที่มีแต้มน้อย เช่น A-2-3-4-5-6-7 และ 10 คน ที่เป็นเจ้ามือ ก็จะทำการหงายไพ่ทิ้งออกไปก่อน 1-2 ใบ จากนั้นก็จะแจกไพ่ใบอื่น มาตกในตำแหน่งของเจ้ามือแทน พูดง่าย ๆ การเล่นไพ่งานแบบแยกแต้มนี้จะเป็นตัวช่วยให้เจ้ามือคัดเลือกแต้มไพ่นั่นเอง ไพ่งานแกะดอกแบบแยกแต้มนี้มีด้วยกันหลายวิธี และจุดที่จะทำตำหนิก็มีหลายตำแหน่งด้วยกัน เนื่องจากลวดลายของไพ่มีมากมายหลายแบบด้วยกัน ดังนั้น เกาซุนจะเลือกแต่ไพ่ที่นิยมเล่นกันในปัจจุบันมาแสดงให้ดูพอหอมปากหอมคอสัก 3-4 แบบ ก็แล้วกันนะครับ ก่อนอื่นต้องนำไพ่ที่ต้องการลงงาน หรือทำตำหนิมาแยกแต้ม ออกจากกันก่อนกองที่มีแต้ม ส่วนไพ่ที่มีแต้มมากก็คือ 8-9-J-Q-K ไพ่ที่มีแต้มน้อยก็คือ A-2-3-4-5-6-7-10 ไม่ต้องทำตำหนิ การแกะดอก และทำตำหนิสามารถทำได้ดังนี้

ไพ่งานแกะดอกแบบแยกแต้ม (แบบที่ 1)

เทคนิคในการแกะดอกแบบแยกแต้ม แบบที่ 1 นี้ จะทำการแกะดอกทำตำหนิที่ตรงกลางสุดของกองไพ่ ซึ่งจะอยู่ในวงกลมไพ่ที่ต้องนำมาแกะดอกก็คือ 8-9-J-Q-K ส่วนไพ่ใบอื่น ๆ ไม่ต้องนำมาทำการแกะดอก โดยผู้ที่ทำตำหนิจะรู้ได้ด้วยตัวเอง

1. แยกไพ่

2. แกะดอกทำตำหนิ (ตอง 5)

3. เปรียบเทียบ

วิธีการแกะดอกให้ใช้ปลายมีดสะกิดหรือขูดเบา ๆ พอแค่เป็นรอยสีขาวเล็ก ๆ พอดูออกว่าเป็นตำหนิของไพ่ตัวนั้นก็พอ การแกะดอกทำด้วยความใจเย็น จะรีบร้อนไม่ได้โดยเด็ดขาด เพราะจะขาดความแนบเนียนและสวยงาม

ไพ่งานแกะดอกแบบแบกแต้ม (แบบที่ 2)

เทคนิคในการแกะดอกแบบแยกแต้มแบบที่ 2 จะทำการแกะดอกทำตำหนิที่ตรงด้านซ้ายขอบนอกไพ่ที่จะต้องนำมาทำการแกะดอกก็คือ 8-9-J-Q-K ส่วนไพ่ใบอื่นไม่ต้องนำมาทำการแกะดอกโดยผู้ทำตำหนิสามารถรู้ได้ด้วยตัวเอง

1. แยกไพ่

2. แกะดอกทำตำหนิ (ตอง 5)

3. เปรียบเทียบ

วิธีแกะดอกให้ใช้ปลายมีดสะกิดหรือขูดเบา ๆ พอแค่เป็นรอยเล็ก ๆ สีขาวขึ้นมาพอดูออกว่าเป็นตำหนิของไพ่ตัวนั้นก็พอ การแกะดอกจะต้องทำด้วยความใจเย็น จะรีบร้อนไม่ได้โดยเด็ดขาด เพราะจะขาดความแนบเนียนและสวยงาม

ไพ่งานแกะดอกแบบแบกแต้ม (แบบที่ 3)

เทคนิคในการแกะดอกแบบแยกแต้มแบบที่ 3 นี้ จะทำการแกะดอกทำตำหนิบริเวณขอบในด้านบนซ้ายมือ โดยไพ่ที่จะนำมาทำการแกะดอกก็คือ ไพ่ 8-9-J-Q-K ส่วนไพ่ใบอื่นไม่ต้องนำมาทำการแกะดอกโดยผู้ทำตำหนิสามารถรู้ได้ด้วยตัวเอง

1. แยกไพ่

2. แกะดอกทำตำหนิ (ตอง 2)

3. เปรียบเทียบ

วิธีการแกะดอกให้ใช้ปลายมีดโกน หรือมีดคัตเตอร์สะกิด หรือขูดเบา ๆ พอแค่เป็นรอยเล็ก ๆ สีขาวขึ้นมาพอดูออกว่าเป็นตำหนิของไพ่ตัวนั้นก็พอ การแกะดอกจะต้องทำด้วยความใจเย็น จะรีบร้อนไม่ได้ โดยเด็ดขาด เพราะจะขาดความแนบเนียนและสวยงาม

วันอังคารที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2553

ไพ่งานแกะดอกแบบรู้แต้มและสีของไพ่

เทคนิคในการแกะดอกสำหรับใช้ในการเล่นการพนันไพ่รัมมี่ และการพนันไพ่ตีแตกนั้น จะเป็นการแกะดอกทำตำหนิแบบรู้ไพ่ทุกตัวว่าไพ่ใบนั้น คืออะไร และสีดอกของไพ่คือตัวอะไร สำหรับเทคนิคในการแกะดอกนั้น ส่วนใหญ่จะมีการกำหนดแต้มไพ่ ดังนี้ คือ

1. แกะดอกทำตำหนิซ้ายไปขวา

2. แกะดอกทำตำหนิจากบนลงล่าง

จากรูปแสดงให้เห็นลักษณะลวดลายทางด้านหลังของไพ่ที่มีความนิยมนำมาใช้เล่นกันมากที่สุดตามบ่อนต่าง ๆ ในปัจจุบัน

1. ลายที่ 1 ไพ่ตอง 1

2. ลายที่ 2 ไพ่กระดาษ

3. ลายที่ 3 ไพ่ตอง

ก่อนอื่นเรามาดูลักษณะทางด้านหลังของไพ่กันก่อนว่า ไพ่แต่ละยี่ห้อนั้นจะมีลวดลายที่แตกต่างกันไปดังเช่น ลวดลายต่อไปนี้ คือ ไพ่ตอง 1 – ตอง 2 – ตอง 5

หมายเหตุ ลวดลายของไพ่ทั้ง 3 ชุดนี้ จะมีความนิยมนำมาเล่นกันมากที่สุดตามบ่อนต่าง ๆ ไม่ว่าบ่อนเล็กหรือบ่อนใหญ่

การแกะดอกไพ่แบบที่ 1 (ดอกที่อยู่ขอบนอก) ตอง 5 จะทำการแกะดอกทำตำหนิแบบเริ่มจากซ้ายไปขวาไล่ไปทีละดอก คือดอกที่ 1 คือ A ดอกที่ 2 คือ 2 ดอกที่ 3 คือ 3 ดอกที่ 4 คือ 4 ดอกที่ 5 คือ 5 ดอกที่ 6 คือ 6 แกะดอกทำตำหนิไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะครบทุกตัว การแกะดอกจะเห็นทั้งด้านบนและด้านล่างโดยแกะดอกทำตำหนิแบบทแยงมุม ดังเช่นในรูป

วางไพ่ 1 ใบโชว์หลังไพ่ไล่แต้มศรชี้ดอกไล่แต้ม

ไพ่วาง 1 ใบโชว์หลังไพ่ศรชี้ไล่ดอกสี

สำหรับการแกะดอกทำตำหนิ เพื่อบอกสีดอกของไพ่จะทำการแกะดอกทำตำหนิโดยเริ่มจากดอกที่ 2 ทางซ้ายมือลงมา คือ สีโพธิ์ดำ ดอกที่ 3 คือ สีโพธิ์แดง ดอกที่ 4 สีข้าวหลามตัด ส่วนไพ่สีดอกจิกไม่ต้องทำก็ได้ให้ผู้ที่ทำตำหนิจำเอาไว้ด้วยตัวเอง

การแกะดอก (ตอง 5 )

แกะดอกเสร็จแล้ว

วิธีการแกะดอกจะใช้มีดคัตเตอร์ที่มีปลายแหลมคมแกะทำตำหนิภายในดอกของไพ่สะกิดให้พอเป็นรอยขาว ๆ ขึ้นมาก็พอ ดังเช่นในรูป

วางไพ่ 1 ใบ โชว์หลังไพ่ไล่แต้มศรชี้บอกแต้ม

การแกะดอกแบบที่ 2 (ดอกที่อยู่ขอบใน) จะทำการแกะดอกทำตำหนิ โดยเริ่มจากซ้ายไปขวาเช่นเดียวกับการทำตำหนิแบบที่ 1 แต่จะอยู่ในขอบด้านใน การกำหนดแต้มจะเริ่มจากไพ่ดอกแรกทางซ้ายมือ คือ A ดอกที่ 2 คือ 2 ดอกที่ 3 คือ 3 ไล่ไปเรื่อยจนกว่าจะครบทุกตัว สำหรับการแกะดอกทำตำหนิ เพื่อบอกสีดอกของไพ่จะทำการแกะดอกทำตำหนิโดยเริ่มจากดอกที่ 1 ทางซ้ายมือลงมา คือ สีโพธิ์ดำ ดอกที่ 2 คือสีโพธิ์แดง ดอกที่ 3 คือ สีข้าวหลามตัด ส่วนไพ่สีดอกจิกไม่ต้องทำก็ได้ให้ผู้ที่ทำตำหนิเอาไว้ด้วยตัวเอง

1. แกะดอก (ตอง 5)

2. แกะดอกเสร็จแล้ว

วิธีการแกะดอกจะใช้มีดคัตเตอร์ที่มีปลายแหลมคมแกะทำตำหนิภายในดอกของไพ่สะกิดให้พอเป็นรอยขาว ๆ ขึ้นมาก็พอ ดังเช่นในรูป

หลังไพ่ศรชี้ดอกและมุมไพ่เพื่อบอกแต้ม

การทำตำหนิแกะดอกไพ่แบบที่ 3 ดอกที่อยู่ขอบนอก โดยจะเริ่มจากดอกแรกทางซ้ายมือเป็นการแกะดอกทำตำหนิบอกแต้ม ดังนี้ คือ หนึ่งดอกจะมี 4 มุม มุมที่ 1 คือ A มุมที่ 2 คือ 2 มุมที่ 3 คือ 2 มุมที่ 4 คือ 4 ส่วนไพ่ดอกที่ 2 จะเริ่มทำตำหนิจากมุมล่างก่อนคือ 5 มุมที่ 2 คือ 6 มุมที่ 3 คือ 7 มุมที่ 2 คือ 10 มุมที่ 3 คือ J มุมที่ 4 คือ Q ส่วนไพ่ K ไม่ต้องทำ ผู้ที่ทำการแกะดอกทำตำหนิจะรู้ด้วยตัวเอง

หลังไพ่ศรชี้บอกสี

สำหรับการแกะดอกเพื่อบอกสีดอกของไพ่จะทำการแกะดอกทำตำหนิจากไพ่ดอกแรกนับจากทางขวามือสุด ดังนี้ คือ 1 ดอกจะมี 4 มุม มุมแรกล่างสุดจะเป็นสีโพธิ์ดำ มุมที่ 2 คือ สีโพธิ์แดง มุมที่ 3 คือ สีข้าวหลามตัด มุมที่ 4 คือ สีดอกจิก

1. การแกะดอก (ตอง 5)

2. แกะดอกเสร็จแล้ว

วิธีการแกะดอกจะใช้มีดคัตเตอร์ที่มีปลายแหลมคมแกะทำตำหนิภายในดอกของไพ่สะกิดให้พอเป็นรอยขาวๆ ขึ้นมาก็พอ ดังเช่นในรูป

หมายเหตุ สำหรับการแกะดอกไพ่แบบรู้แต้มและรู้สีดอกของไพ่ จะมีจุดประสงค์ในการนำมาเล่นไพ่รัมมี่และไพ่ตีแตก เพราะสามารถรู้ไพ่ทุกตัวว่าไพ่ใบนั้น คือตัวอะไร ควรจั่วหรือไม่ควรจั่ว ใครคอยอะไรจะรู้หมด สามารถพลิกแพลงการเล่นได้หลายรูปแบบด้วยกัน

การแกะดอกแบบที่ 4 (ดอกที่อยู่ขอบนอก) (ตอง 2) จะทำการแกะดอกทำตำหนิแบบเริ่มจากซ้ายไปขวาไล่ไปทีละดอก คือ ดอกที่ 1 คือ A ดอกที่ 2 คือ 2 ดอกที่ 3 คือ 3 ดอกที่ 4 คือ 4 ดอกที่ 5 คือ 5 ดอกที่ 6 คือ 6 แกะดอกทำตำหนิไปเรื่อยจนกว่าจะครบทุกตัว การแกะดอกจะแกะทั้งด้านบนและด้านล่างโดยจะแกะดอกทำตำหนิแบบทแยงมุม (ดังเช่นในรูป)

1. วางไพ่ 1 ใบ โชว์หลังไพ่ไล่แต้ม ศรชี้ดอกไล่แต้ม

2. ไพ่วาง 1 ใบ โชว์หลังไพ่ศรชี้ดอกบอกสี

สำหรับการแกะดอกทำตำหนิ เพื่อบอกสีดอกของไพ่จะเริ่มจากดอกที่ 1 ซ้ายมือลงมา คือสีโพธิ์ดำ ดอกที่ 2 คือ โพธิ์แดง ดอกที่ 3 คือ สีข้าวหลามตัด ส่วนไพ่สีดอกจิกไม่ต้องทำตำหนิก็ได้ ให้ผู้ทำตำหนิจำเอาไว้ด้วยตัวเอง

1. แกะดอก (ตอง 2 )

2. แกะดอกเสร็จแล้ว

วิธีการแกะดอกจะใช้มีดคัตเตอร์ที่มีปลายแหลมคมแกะทำตำหนิ ภายในดอกของไพ่สะกิดให้พอเป็นรอยขาว ๆ ขึ้นมาก็พอ ดังเช่นในรูป

การแกะดอกแบบที่ 5 (ดอกที่อยู่ขอบใน) จะทำการแกะดอกทำตำหนิโดยเริ่มจากซ้ายไปขวาเช่นเดียวกันกับการทำตำหนิแบบที่ 1 แต่จะอยู่ภายในขอบด้านใน การกำหนดแต้มจะเริ่มจากไพ่ดอกแรกทางซ้ายมือ คือ A ดอกที่ 2 คือ 2 ดอกที่ 3 คือ 3 ไล่ไปเรื่อยจนครบทุกตัว

วางไพ่ 1 ใบ โชว์หลังไพ่ไล่แต้ม ศรชี้บอกแต้ม

สำหรับการแกะดอกทำตำหนิ เพื่อบอกสีดอกของไพ่จะทำการแกะดอกทำตำหนิ โดยเริ่มจากดอกที่ 1 ทางซ้ายมือลงมา คือ สีโพธิ์ดำ ดอกที่ 2 คือ สีโพธิ์แดง ดอกที่ 3 คือ สีข้าวหลามตัด ส่วนไพ่สีดอกจิกไม่ต้องทำตำหนิก็ได้ ให้ผู้ทำตำหนิจำเอาไว้ด้วยตัวเอง

วางไพ่ 1 ใบ โชว์หลังไพ่ไล่แต้ม ศรชี้ดอกบอกสี

วิธีการแกะดอกจะใช้มีดคัตเตอร์ที่มีปลายแหลมคมแกะทำตำหนิภายในดอกของไพ่สะกิดให้พอเป็นรอยขาว ขึ้นมาก็พอ ดังเช่นในรูป

1. การแกะดอก (ตอง 2)

2. แกะดอกเสร็จแล้ว

การทำตำหนิแกะดอกไพ่แบบที่ 6 ดอกที่อยู่ขอบนอกโดยเริ่มจากดอกแรกทางซ้ายมือ เป็นการแกะดอกทำตำหนิแบบแต้ม ดังนี้ คือ 1 ดอกจะมี 4 มุม มุมที่ 1 คือ A มุมที่ 2 คือ 2 มุมที่ 3 คือ 3 มุมที่ 4 คือ 4 ส่วนไพ่ดอกที่ 2 จะเริ่มทำตำหนิจากมุมล่างก่อน คือ 5 มุม ที่ 2 คือ 6 มุมที่ 3 คือ 7 มุมที่ 4 คือ 8 ส่วนไพ่ดอกที่ 3 มุมล่างสุด คือ 9 มุมที่ 2 คือ 10 มุมที่ 3 คือ J มุมที่ 4 คือ Q ส่วนไพ่ K ไม่ต้องทำ ผู้ที่ทำการแกะดอกทำตำหนิจะรู้ด้วยตัวเอง

หลังไพ่ ศรชี้และมุมไพ่เพื่อบอกแต้ม

สำหรับการแกะดอก เพื่อบอกสีดอกของไพ่ จะทำการแกะดอกทำตำหนิจากไพ่ดอกรำนับจากทางขวามือสุด ดังนี้ คือ 1 ดอกจะมี 4 มุม มุมแรกล่างสุด คือ สีโพธิ์ดำ มุมที่ 2 คือ สีโพธิ์แดง มุมที่ 3 คือ สีข้าวหลามตัด มุมที่ 4 คือ สีดอกจิก

หลังไพ่ ศรชี้ดอกบอกสี

การแกะดอก (ตอง 2)

แกะเสร็จแล้ว

วิธีการแกะดอกจะใช้มีดคัตเตอร์ที่มีปลายแหลมคมแกะทำตำหนิภายในดอกของไพ่สะกิดให้พอเป็นรอยขาว ๆ ขึ้นมาก็พอ ดังเช่นในรูป

หมายเหตุ สำหรับการแกะดอกไพ่แบบรู้แต้ม ไม่รู้แต้ม และรู้สีดอกของไพ่ จะมีจุดประสงค์ในการนำไปเล่นไพ่รัมมี่และไพ่ตีแตกเพราะเราสามารถรู้ไพ่ทุกตัวว่าไพ่ใบนั้น คือตัวอะไร ควรจั่วหรือไม่ควรจั่ว ใครคอยอะไรจะรู้หมด สามารถพลิกแพลงการเล่นได้หลายรูปแบบ

โจรปล้นสิบครั้ง ยังเหลือบ้าน

ไฟไหมบ้านสิบครั้ง ยังเหลือที่

เสียพนันครั้งเดียว ท้อชีวี

อาจไม่เหลือบ้านและที่ ให้หลับนอน

นี่คงเป็นบทกลอนอุทาหรณ์สอนใจได้เป็นอย่างดี สำหรับหลาย ท่านที่ยังหลงใหลเล่นการพนันอยู่นะครับ